วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ประโยชน์ที่ได้จากเทคโนโลยีสารสนเทศ

ประโยชน์ที่ได้จากเทคโนโลยีสารสนเทศ


             1.4 ประโยชน์ที่ได้จากเทคโนโลยีสารสนเทศ
            ชีวิตความเป้นอยู่ในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับสารสนเทศต่าง ๆ มากมาย การอยู่รวมกันเป็นสังคมทำให้มนูษย์ต้องสื่อสารถึงกัน ต้องติดต่อและทำงานหลายสิ่งหลายอย่างร่วมกัน สมองของคนเราจะต้องจดจำสิ่งต่าง ๆ ไว้มากมาย ต้องจดจำชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย จดจำข้อมุลต่าง ๆ ไว้ประโยชนืในภายหลัง สังคมจึงการความเป็นระบบที่มีรูปแบบชัดเจน เช่น การกำหนดเลขที่บ้าน ถนน อำเภอ จังหวัด ทำให้สามารถติดต่อส่งจดหมายถึงกันได้ ที่อยู่จึงเป็นสารสนเทศอย่างหนึ่งที่ใช้งานอยู่
           เพื่อให้สารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์เป็นระบบมากขึ้น จึงมีการจัดการสารสนเทศเหล่านั้นในลักษณะเชิงระบบ เช่น ระบบทะเบียนราษฎร์ มีการใช้เลขประจำตัวประชาชนซึ่งประกอบด้วยเลขรหัส 13 ตัว แต่ละตัวจะมีความหมายเพื่อใช้ในการตรวจสอบ
           การเข้ารับการตรวจรักษาในโรงพยาบาลก็ต้องมีการลงทะเบียน การสร้าง้วชทัเบียนระบบเสียภาษีก็มีการสร้างรหัสประจำตัวผู้เสียภาษี นอกจากนี้มีการจดทะเบียนรถยนต์ ทะัเบียนการค้า ทะเบียนโรงงาน ฯลฯ
      



รูปที่1.6 บนบัตรประจำตัวและบัตรเครดิตจะมีรหัสเพื่อให้สามารถอ้างถึงข้อมูลของผู้ถือ

             การใช้สารสนเทศเกี่ยวข้องกับทุกคน การเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีความจำเป็น ปัจจุบันเราซื้อสินค้าด้วยบัตรเครดิต เบิกเงินด้วยบัตรเอทีเอทีเอ็ม โอนย้ายข้อมูลในลักษณะอิเล็กทรอนิกส์แถบันทึก แผ่นบันทึก แผ่นซีดีรอม ดังจะเห็นเห็นเอกสารหรือหนังสือบรรจุแผ่นซีดีรอมซึ่งอาจเก็บหนังสือทั้งตู้ ไว้ในแผ่นซีดีรอมเพียงแผ่นเดียว
            การสื่อสารข้อมูลที่เห็นเด่นชัดขณะนี้ และมีบทบาทมากอย่างหนึ่ง คือ ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือการส่งข้อความถึงกันผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ กล่าวคือ ผู้ใช้นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ พิมพ์ข้อความเป็นจดหมายหรือเอกสาร พิมพ์เลขที่อยู่ของไปรษณีย์อิเล็กททรอนิกส์ของผู้รับและส่งผ่านเครือข่าย คอมพิวเตอร์ ผู้รับก็สามารถเปิดคอมพิวเตอร์ของตน เพื่อค้นหาจดหมายและสามารถตอบโต้กลับไดทันที


รูปที่ 1.7 จอภาพแสดงการส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส

            เทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับชีวิต ประจำวันเป็นสิ่งต้องเรียนรู้ เป็นเรื่องที่รวมไปถึงการรวบรวมข้อมูล การจัดเก็บข้อมูล การจัดการข้อมูลและการประมวณผลข้อมูล ข้อมูลที่จัดเก็บ จำเป็นต้องตรวจสอบเพื่อความถูกต้อง จัดรูปแบบเพื่อให้อยู่ในรูปแบบที่ประมวณผลได้ เช่น การเก็บนามบัตรของเพื่อนหรือบุคคลที่มีการติดต่อซึ่งมีจำนวนมาก เราอาจหากล่องพลาสติกมาใส่นามบัตร มีการจัดเรียงนามบัตรตามอักษรของชื่อ
สร้างดัชนีการเรียกค้นเพื่อให้หยิบค้นได้ง่าย    แต่เมื่อคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท ทำให้มีการเปลี่ยนรูปแบบของการจัดเก็บในลักษณะบัตรมาเป็นการจัดเก็บข้อมูล ไว้ในแผ่นบันทึก โดยมีระบบการจัดเก็บและประมวณผลลักษณะเดียวกับที่กล่าว เมื่อต้องการเพิ่มเติมปรับปรุงข้อมูลหรือเรียกค้นก็นำแผ่นบันทึกนั้นมาใส่ใน คอมพิวเตอร์ทำการเรียกค้น แล้วแสดงผลบนจอภาพหรือพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์


รูปที่1.8 การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เก็บข้อมูล

             
                 การจัดการข้อมูลด้วยคอมพิวเตอรทำได้สะดวก คอมพิวเตอรืจึงเป็นที่นิยมสำหรับการจัดการข้อมูลในยุคปุจจุบันขณะเดียวกับ ที่คอมพิวเตอร ์มีราคาที่ลดลงและมีขีดความสามารถสูงขึ้น จึงเชื่อแน่ว่าบทบาทของการจัดการข้อมูลในชีวิตประจำวันจะเพิ่มมากขึ้นต่อไป โครงสร้างและรูปแบบของข้อมูลที่ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ เป็นโครฃงสร้างที่จะต้องมีรูปแบบที่จัดเชน และแน่นอน การจัดการข้อมูลจึงต้องมีการกำหนดกฎเกณฑ์เฉพาะ เช่น การกำหนดรหัสเพื่อใช้ในการจำแนกข้อมูล รหัสจึงมีความสำคัญ เพระาคอมพิวเตอร์สามารถจำแนกข้อมูลด้วยรหัสได้ง่าย ลองนึกดูว่าหากมีข้อมูลจำนวนมากแล้วให้คอมพิวเตอร์ค้นหาโดยค้นหาตั้งแต่หน้า แรกเป็นต้นไป การดำเนินการเช่นนี้ กว่าจะค้นพบอาจไม่ทันต่อความต้องการการดำเนินการเกี่ยวข้อมูลจึงต้องมีการ กำหนดเลขรหัส เช่น เลขประจำตัวประชาชน รหัสเลขทะเบียนคนไข้ ทะเบียนรถยนต์ เลขประจำตัวนักเรียน เป็น การจัดการในลักษณะนี้จึงต้องมรการสร้างระบบเพื่อความเหมาะสมกับการทำวานของ คอมพิวเตอร์เป็นสำคัญ
            
            นอกจากเรื่องความเร็วและความแม่นยำของการประมวณผลข้อมูลด้วยคอมพิวเตอรืแล้ว การคัดลอกและการแจกจ่ายข้อมูลไปยังผู้ใช้ก็ทำได้สะดวก เนื่องจากข้อมูลที่เก็บในรูปแบบของอิเล็กทรอนิกส์สามารถเปลี่ยนถ่ายระหว่าง ตัวกลางได้ง่าย เช่น การสำเนาข้อมูลระหว่างแผ่นบันทึกข้อมูลสามารถทำเสร็จได้ในเวลารวดเร็ว
            
           ด้วยความก้าวหน้าและการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคมในยุคของสารสนเทศการปรับ ตัวของสังคมจึงเกิดขึ้น ประเทศที่เจริญแล้วประชากรส่วนใหญ่จะอยู่กับเครื่องจักรเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสารสนเทศ มีเครือข่ายการให้บริการใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นหลายอย่างในขณะที่เราอยู่บ้าน อาจใช้โทรศัพท์ติดต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ( internet ) เพื่อขอเรียกดูราคาสินค้า ขอดูข่าวเกี่ยวกับดินฟ้าอากาศ ข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเมือง อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา นอกจากนี้ยังมีระบบสั่งซื้อสินค้าผ่านทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์แม่บ้านใช้ คอมพิวเตอร์ส่วนตัวที่บ้านต่อเชื่อมผ่านเครือข่ายสายโทรศัพท์ไปยังห้างสรรพ สินค้าเพื่อเปิดดูราคาและรายการสินค้า ซึ่งสามารถสั่งซื้อได้เมื่อต้องการ
            
           บทบาทของเทคโนดลยีสารสนเทศที่กำลังเปลี่ยนแปลงสังคมนี้เอง ผลักดันให้เราต้องศึกษาหาความรู้เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้ กระทรวงศึกษาธิการได้เพิ่มเติมหลักสูตรเกี่ยวกัยเทคโนดลยีสารสนเทศเข้าไปใน หลักสูตรการเรียนการสอน โดยมุ่งเน้นให้เยาวชนของชาติได้มีโอกาสได้เรียนรู้เทคโนโลยีเหล่านี้ หากไม่หาทางปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีและการเรียนยรู้ให้เข้าใจ เพื่อให้มีการพัฒนาสังคมไทยได้อย่างเหมาะสม เราจะเป็นเพียงผู้ใช้ที่ต้องเสียเงินตราให้ต่างประเทศอีกมากมาย

ที่มา  http://neung.kaengkhoi.ac.th/workm.4_m62551/m4_5/salinee/ประโยชน์.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น